ดาวเตะหมายเลข 34 มีความผูกพันธ์กับดินแดนเมืองเบียร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าตัวเกิดที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และภรรยาเกิดที่ อัลแบร์เนีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนั้นอยู่ไม่ไกลจาก เยอรมัน สักเท่าไหร่ ประกอบกับสื่อมวลชนที่ไม่ได้ครอบงำวงการกีฬาฟุตบอลเหมือนที่ประเทศอังกฤษ จึงทำให้ตัวเขาอยากกลับไปใช้ชีวิตที่นั่น โดยหวังว่าอยากให้ลูกๆเติบโตมาเหมือนเด็กธรรมดาคนนึง

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ชาก้า เป็นหนึ่งคนที่อดทนกับการโดนเหยียดหยาม ขู่ฆ่า จนลามไปถึงครอบครัวอันเป็นที่รักของเขา ยิ่งในช่วงปี 2019 ที่มันหนักหนาสาหัสถึงขั้นถูกแช่งให้ลูกของเขาตาย ส่งผลให้สโมสรจำเป็นต้องถอดปลอกแขนกัปตันทีมของเขาออก ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในช่วงเวลานั้นตัวเขาเองถึงกับต้องเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่เพื่อให้ผู้คนจำเขาไม่ได้ เขาไม่ต้องการให้ใครรับรู้ ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากปะทะวาจากับใคร และทางออกเดียวในตอนนั้นก็คือการย้ายทีมไปยัง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เหลือเพียงขั้นตอนการบินไปเซ็นสัญญาก็เป็นอันจบสิ้น แต่สุดท้าย มิเกล อาร์เตต้า ก็มีบทบาทในการรั้งตัวเขาไว้ อธิบายถึงความสำคัญของนักเตะ และแผนงานในการทำทีมว่าเป็นแบบไหน คิดอย่างไร และหากต้องการย้ายออกก็จะไม่ขวางทาง ซึ่งสุดท้ายแล้วโชคชะตาก็กำหนดให้ ชาก้า เลือกไปต่อกับ อาร์เซนอล

การทำงานร่วมกับทีมงานของ อาร์เตต้า เป็นไปด้วยดี เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมอย่างเช่นเคย โดยเฉพาะ ดาวิด ลุยซ์ ที่เคยยกย่องเพื่อนคนนี้ว่า เป็นหนึ่งในคนสำคัญของทีม เป็นคนที่เพื่อนร่วมทีมหรือรุ่นน้องพร้อมจะมองหาเสมอเมื่อต้องการที่ปรึกษา รวมทั้งมีความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม 

ตลอดจนมาถึงวันนี้ ปลอกแขนกัปตันทีมที่เคยถูกถอดเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต เขาได้รับมันกลับมาสวมบ้างเป็นครั้งคราว แต่ทว่า ’ห้องเครื่องชาวสวิส’ ก็ชัดเจนพอว่าเขาไม่ต้องการรับมันเป็นการถาวรอีกต่อไป

ด้วยผลงาน 23 ประตู 29 แอสซิสต์ ตลอดระยะเวลา 7 ปี การตัดสินใจอำลาทีมของ ชาก้า มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุดของเขา เมื่อนักเตะในวัยก้าวข้ามตัวเลข 30 ปี พละกำลังที่เริ่มถดถอย แม้หัวใจจะยังเต็มร้อยแต่ร่างกายกลับไม่เหมือนเดิม อีกทั้งคนข้างหลังที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ชีวิตนักเตะก็ไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิตเมื่อถึงวันหนึ่ง รายได้ หรือความสำเร็จ อาจไม่ใช่ทางเลือกแรกในการทำงาน แต่ความสุขของตนและคนในครอบครัวต่างหากคือสิ่งที่มนุษย์คนนึงต้องการมากกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะเมื่อคุณมีลูก ผู้เป็นพ่อและแม่ย่อมต้องการสร้างรากฐานที่มั่นคงบนคำว่า“สิ่งที่ดีที่สุด”เสมอ

ในฐานะที่ผมเป็นแฟนตัวยงคนนึงของ กรานิต ชาก้า มองว่า ถึงแม้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อาจเป็นสโมสรกลางตารางในฤดูกาลนี้ หรืออาจจะไม่ยิ่งใหญ่ในเรื่องของผลงานเทียบเท่ากับ อาร์เซนอล แต่มันก็คงไม่แปลกอะไรใช่ไหม ถ้าสุดท้ายแล้วปลายทางที่ ‘เมืองเบียร์’ จะคือคำตอบที่สามารถมอบความสบายใจ และความสุขที่ลงตัวให้กับเขาได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ขอให้โชคดีนะครับกัปตัน(ในความทรงจำ)

เขียนโดย The Lite Team.